วันพุธที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2552

Zhushi

ซูชิ (sushi) หรือ ข้าวปั้นมีหน้า เป็นอาหารญี่ปุ่น ที่ข้าวมีส่วนผสมของน้ำส้มสายชู และกินคู่กับปลา เนื้อ หรือ ของคาวชนิดต่างๆ ในประเทศญี่ปุ่น ซูชิมักจะหมายถึงอาหารที่มีส่วนประกอบของ ซูชิเมะชิ (ข้าวที่ผสมน้ำส้มสายชู) และมีหน้าแบบต่างๆเป็นหน้า ที่นิยมได้แก่ อาหารทะเล ผัก ไข่ เห็ด เนื้อที่นำมาใช้อาจจะเป็นเนื้อดิบ หรือ เนื้อที่ผ่านกระบวนการทำอาหารแล้ว สำหรับในประเทศอื่น

ซูชิ หมายถึง การรวมกันระหว่างปลากับข้าว ซูชิมีวิวัฒนาการมาเมื่อหลายร้อยปีมาแล้วซึ่งเกิดจากความต้องการถนอมอาหารของคนญี่ปุ่น

"ซูชิ" นิยมหมายถึง นิงิริซูชิ ที่เป็นข้าวมาอัดเป็นก้อนและมีเนื้อปลาวางบนด้านหน้าเท่านั้น

ซูชิมีหลากหลายแบบ แต่ที่คนไทยคุ้นเคยมี 4 แบบ คือ

แบบที่ 1 : นิงิริซูชิ (Nigiri Sushi) คือ ข้าวที่ปั้นเป็นรูปวงรี แล้ววางปลาดิบ ปลาหมึก ฯลฯ ไว้ข้างบน อาจจะตกแต่งด้วยสาหร่ายทะเล




แบบที่ 2 : มากิซูชิ (Maki Sushi) คือ ข้าวปั้นที่มีวิธีทำ 3 แบบ

(1) ม้วนข้าวไว้ด้านในสาหร่ายทะเลอยู่ด้านนอก

(2) ม้วนสลับกับแบบแรกโดยที่สาหร่ายอยู่ด้านในส่วนข้าวอยู่ด้านนอก

(3) ห่อเป็นรูปกรวย เรียกว่า แคลิฟอร์เนียมากิ






แบบที่ 3 : ชิราชิซูชิ (Chirashi Sushi) คือ ปลาดิบ ปลาหมึก กุ้ง ผัก ฯลฯ ที่หั่นเป็นชิ้นๆ วางเรียงบนข้าวที่ใส่อยู่ในกล่อง




แบบที่ 4 : โอชิซูชิ (Oshi Sushi) คือ ข้าวปั้นรูปแบบคันไซจากเมืองโอซาก้า เอาข้าวมาอัดลงในแม่พิมพ์รูปสี่เหลี่ยมตามยาวหั่นขนาดพอดีให้รับประทานเป็น คำๆ แล้ววางเนื้อปลาไว้ด้านบน




วิธีการรับประทานซูชิของชาวญี่ปุ่น

1. คีบซูชิจากจานหลักมาไว้ที่จานแบ่งพยายามวางซูชิในลักษณะ 45 องศา เพื่อที่จะคีบกินได้ง่าย

2. อย่าเอาวาซาบิไปละลายในโชยุ แต่ให้เอามาป้ายบนซูชิ

3. เวลาจิ้มโชยุระวังอย่าให้เม็ดข้าวแตกไปในถ้วยโชยุ

4. ถ้ากินซูชิไม่หมดคำให้วางซูชิส่วนที่กัดเข้าหาตัว ให้คืบซูชิฝั่งที่ยังไม่ได้กัดจิ้มโชยุ เพื่อความสุภาพ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น